cooling darliekim

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เหม๋า เจ๋อ ตุง

เหมา เจ๋อ ตุง

เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2436 มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ถึงแก่อสัญกรรม 9 กันยายน พ.ศ. 2519 (อายุ 82 ปี) กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สังกัดพรรค พรรคคอมมิวนิสต์จีน

เป็นบุตรชายในตระกูลชาวนาเจ้าของที่ดิน จบการศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครู ก่อนจะเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากถูกปราบปรามโดยนายพลเจียง ไคเชกเหมาฯ ได้ขึ้นมาเป็นประธานของคณะโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศจีน ภายใต้การปกครองของเหมา เจ๋อตง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้ชนะสงครามกลางเมืองจีน และปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ได้

เหมา เจ๋อตงได้ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเหมา ได้นำประเทศเข้าเป็นพันธมิตรกับสหภาพโซเวียต ก่อนจะแยกตัวมาภายหลัง เขายังเป็นผู้นำให้เกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมเหมาได้รับการยกย่องให้รวมประเทศ จีนเป็น ปึกแผ่นอีกครั้ง หลังจากตกอยู่ใต้อิทธิพลของต่างชาติตั้งแต่สงครามฝิ่น ในประเทศเขาถูกเรียกว่า ประธานเหมา (Chairman Mao) แต่ เขาปกครองประเทศจีน และก็มีป้ายปรากฏคำวิพากษ์วิจารณ์ต่อพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นครั้งสุดท้ายที่เหมาจะขอความคิดเห็นกับประชาชนจีน ไม่ช้าหลังจากนั้นเขาก็กำจัดคนที่ออกมาพูดอย่างอำมหิต คนหลายแสนคนถูกระบุว่าเป็นพลเรือนฝ่ายขวาและถูกไล่ออกจากงานคน หลายหมื่นคนถูกส่งเข้าคุก แต่เหมาไม่สนใจอีกต่อไป เขาแวดล้อมด้วยลูกขุนพลอยพยักและมีอิสระที่จะดำเนินตามความคิด ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะคาดเดาปลายทางได้ ปี พ.ศ. 2501 เหมาออกจากปักกิ่งไปเยือนชนบท เขาหมดความอดทนกับความเปลี่ยนแปลงที่ล่าช้า และกังวลว่าการปฏิวัติจะสูญเสียความต่อเนื่อง เขารู้สึกว่าถึงเวลาเปลี่ยนแปลงประเทศ ฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2502 ผลจากความทะเยอทะยานของเหมา ทำให้จีนตกอยู่ในภาวะลำบาก คนทั้งหมู่บ้านเสียชีวิตด้วยความอดอยากเมื่อประชาชนไม่มีอะไรจะกิน เขาก็กินร่างของคนที่เพิ่งตาย ไม่มีใครทราบว่าลัทธิการกินเนื้อมนุษย์ได้แพร่ขยายไปอย่างไร แต่ผู้คนราว 40 ล้านคนต้องเสียชีวิตด้วยความหิวโหย ระหว่างปี พ.ศ. 2502 - 2504 ความสับสนกระจายไปทั่วจีนราวกับพายุขบวนการร้ายกาจถูกตั้งขึ้นเพื่อกำจัดผู้ ที่เป็นกลางทางการเมือง ขบวนการร้ายกาจครอบงำไปทั้งประเทศ ปลายยุค พ.ศ. 2503 มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนถูกฆ่าหรือถูกจำคุกโดยขบวนการร้ายกาจ ขบวนการร้ายกาจถูกปลดหลังจากหลายปีแห่งความวุ่นวายในจีน ตอนนี้เหมาหาวิธีการที่จะเปิดประเทศจีนสู่ประชาคมโลก เป็นการริเริ่มที่สำคัญครั้งสุดท้ายของเขาด้วยลักษณะนิสัยที่ไม่เกรงกลัว สิ่งใด เขาหันเข้าหาศัตรูคือ สหรัฐอเมริกา โดยปี พ.ศ. 2515 เขาได้เชิญประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันแห่งอเมริกา มาที่ปักกิ่ง เพื่อเข้าร่วมการประชุม เป็นการสนทนาครั้งแรกของทั้งสองประเทศในช่วงเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ แต่สุขภาพเหมาก็แย่ลง 18 กันยายน พ.ศ. 2519 เขาเสียชีวิตด้วยอายุ 83 ปี แต่เบื้องหลังความนิ่งเงียบของเขาทำให้เรารู้ว่าเขาอยู่เบื้องหลังการประหาร ประชากรร่วมชาติกว่า 10 ล้านคน

ช่วงที่เป็นผู้นำกองทัพแดง

ขณะ ที่เหมาเจ๋อตงกล้าหาญทำสงครามกับทหารรัฐบาลที่มีมากกว่ากันหลายขุม และต้องเผชิญกับขุนศึกที่เก่งกาจจบการศึกษาจบการคึกษาจากโรงเรียนายทหารชี้ นนำทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เหมาเจ๋อตงกลับไม่ละเลยที่จะงัดกลยุทธ์ตำรับโบราณออกมาใช้ให้จั๋งหนับ หยิบมาใช้เมื่อไร เป็นได้เรื่องทุกครั้ง เพราะเหมาไม่ได้ใช้อย่างทื่อๆตามตำรา แต่รู้จักปรับปรุงพลิกแพลงแต่งเติมเปลี่ยนตำราตามสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป

ขณะ นั้น เมื่อเขากุมอำนาจการชี้นำกองทัพแดงได้เด็ดขาดหลังจากการประชุมครั้งสำคัญที่ ตำบลจุนยี่ ระหว่างการเดินทัพทางไกล ขณะนั้น จอมพลเจี่ยงสั่งการด่วนให้ระดมกองทัพรัฐบาลทางภาคใต้ทั้งฟากตะวันออกและ ตะวันตกรวม 5 มณฑล กระจายกำลังกันโอบล้อมรุกคืบเข้า สู่ตำบลจุ่นยี่อันเป็นที่ตั้งกองบัญชาการกองทัพแดงและเป็น ศูนย์รวมของบรรดาแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์ ท่ามกลางเหตุการณ์สับสนอลม่านนี้เอง เหมาเจ๋อตง ผงาดขึ้นเป็นผู้นำอย่างแท้จริงในการสั่งการวางแผนรับศึกมหาโหดครั้งนี้

เหมา เจ๋อตงสั่งการให้เคลื่อนทัพขึ้นเหนืออย่างรวดเร็วเพื่อสลัดให้พ้นจากการตาม ล่าของเหล่าทหารรัฐบาลที่โอบล้อมเข้ามาเหมือนแหยักษ์ การ จะยกพลขึ้นเหรือต้องข้ามแม่น้ำฉางเจียง ซึ่งเป็นปราการธรรมชาติที่กั้นประเทศจีนออกเป็นเหนือกับใต้ การลองภูมิระหว่างจอมพลเจี่ยง กับเหมา เจ๋อตงครั้งแรก เกิดขึ้นในครั้งนี้

จอม พลเจี่ยงขึ้นชื่อเป็นขุนศึกอัจฉริยะคนหนึ่ง ซึ่งมีแผนการรบเหมือนเทวดา บอกให้ งานนนี้จอมพลเจ้าปัญญาต้องการเผด็จศึกคอมมิวนิสต์ให้ได้ในคราวเดียว จึงทุ่มเทพลมหาศาลนับแสนคนวางกำลังตรึงแม่น้ำฉางเจียงทางฝั่งเหนืออย่างไม่ ให้ปลาสักตัวขึ้นฝั่งมาได้เลย ขนาดปลาตัวกระจ้อยร่อยยังไม่อาจพ้นเงื้อมมือไปได้ เหมาเจ๋อตงจะนำทหารแดงนับหมื่นข้ามแม่น้ำได้อย่างไร

เหมา เจ๋อตง แทบจะไม่ได้แตะต้องอาหารใดๆเลย เขาต้องพิสูจน์ให้ทหารแดงเชื่อมั่นในตัวเขาให้ได้ในโอกาสแรกที่ตนเองกุม อำนาจการบัญชาการด้านยุทธการ จอมทัพเหมาสั่งให้ทหารแดงจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีกำลังพลไม่มากนักบุกเข้าทะลวงค่ายศัตรูที่ถู่เฉิงกับเมืองชิสุ่ย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอบยตะเข็บมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) กับมณฑลกุ้ยโจว โถมกำลังเข้าตีอย่างเอาเป็นเอาตายให้เห็นว่า มีความปราถนาแรงกล้าที่จะยึดเมืองเล็กๆทั้งสองแห่งนั้นไว้ให้ได้ ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้ฝ่ายรัฐบาลเข้าใจว่าทหารแดงกำลังรบอย่างจนตรอกและยอมตายเพื่อ อุดมการณ์ไม่คิดหนีสู้ไม่ถอย ฝ่ายจอมพลเจี่ยงไล่ล่า ทหารป่าตกหลุมพรางเข้าใจผิดว่า ทหารแดงคิดสู้ตายด้วยการตีเมืองทั้งสองแห่งนั้นอย่างดุเดือดจริงๆ จึงระดมพลยกกองทัพส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปช่วยทหารรัฐบาลที่อยู่เมืองถู่เฉิงกับ เมืองชิสุ่ย จังหวะสำคัญนั้นเอง เหมาเจ๋อตง ฉกฉวยนาทีทองนำกองทัพแดงส่วนใหญ่ชะแว้บผ่านการสกัดกั้นของทหารรัฐบาล ลุยข้ามน้ำชิสุ่ยหรือแม่น้ำแดงอันเป็นแควแยกของมหานทีแม่น้ำฉางเจียงไปได้ อย่างสะดวก ด้วยกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล ถึงแม้กองทัพแดงต้องสูญเสียไพร่พบส่วนหนึ่งไปในการบุกโจมตีเมืองเล็กๆสอง แห่ง แต่คำนวณและคุ้มค่าชีวิตมาก เมื่อกองทัพแดงส่วนใหญ่รอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชไปได้อย่างหวุดหวิดชนิดหายใจ คว่ำ ทหารแดงที่หลุดข้ามฝั่งแม่น้ำได้ จึงเลื่อมใส ศรัทธาในตัวของเหมาเจ๋อตงมากและยอมมอบกายถวายชีวิตให้แก่เหมาเจ๋อตงตั้งแต่ บัดนั้นเป็นต้นมา ทหารหัวเห็ดเหล่านั้นกลายเป็นกองทัพพิทักษ์เหมาในกาลต่อมา ซึ่งช่วยค้ำจุนบัลลังก์ให้เหมาเจ๋อตงกลายเป็นประธานเหมาผู้ยิ่งยง ตลอดอายุขัยที่เหลือนานกว่า 40 ปี การ เสียสละอีกครั้งของทหารเดงหน่วยนี้ ทำให้ทหารแดงส่วนใหญ่ที่ข้ามฟากไปแล้ว สามารถเดินรุดหน้าไปได้รวดเร็วจนทหารรัฐบาลตามไม่ทัน เพราะต้องพะวงกับทหารแดงหน่วยที่ข้ามกลับมาสกัดกั้นแบบยอมพลีชีพ

1 ความคิดเห็น: